บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2019

วันที่ 5 [Day 5]

รูปภาพ
          เร าออกกันจากบ้านเวลา 8.30 น. กว่าจะถึง JR Sapporo ก็เกือบ 10 โมงแล้ว เราก็รีบกดตั๋วแล้วก็ได้ขึ้นตอน 9.52 น. เป็นแบบ Semi - Rapid (คือช่วงแรกจะจอดไม่กี่สถานี แต่พอเข้าใกล้เมือง Otaru ก็จะเริ่มจอดทุกสถานีแล้วคะ) เราไปลงที่ Minami-Otaru เวลา 10.30 น. แล้วออกจากสถานีเดินตรงไป 1 บล็อกแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปเรื่อยๆ ทางมันก็จะค่อยๆ ลงเมือง จนถึงแยกใหญ่ ๆ ก็จะเห็น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ คนเยอะมากๆ ด้านหน้า พิพิธภัณฑ์ ก็จะมีกล่องดนตรีที่มีหน้าปัดนาฬิกาเรือนใหญ่พอมันร้องบอกเวลาก็จะปล่อยไอน้ำด้วยเป็นจังหวะทุกๆ ชั่วโมงคะ เข้าไปข้างในอาคาร จะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ทั้ง 3 ชั้นจะมีขายกล่องดนตรีอยู่คะ ที่ชั้น 2 จะมีให้ถ่ายรูปกับกล่องดนตรีแบบเก่าหลายแบบอยู่ บางอันมีขายด้วยนะแต่อันละ 10,000 เยนขึ้นถึง 100,000 เยนทีเดียว           หลังจากเราเดินรอบ พิพิธภัณฑ์ เรา ก็ออกไปข้ามถนนเจอกับร้าน LeTAO  เข้าไปเค้าก็มีขนมขายเต็มไปหมด บางอันก็มีให้ลองชิมเราก็ลองไปเรื่อย จนเจออันอร่อยก็ซื้อไปกล่องหนึ่งคะ เราไม่ได้ซื้อเค้กมาเพราะคิดแล้วว่ากว่าจะได้กินคงเสียล่ะ จากนั้นเราก็เดินไ

วันที่ 4 [Day 4]

รูปภาพ
         วันนี้ อากาศแจ่มใสมาก เราลงมากินข้าวเช้าในโรงแรมตอน 7.00 น. เป็นขนมปังกับซุปข้าวโพด แล้วก็รีบขับตรงดิ่งไป Shiroishi ซึ่งเป็นเมืองที่เราต้องนำรถไปคืนที่จุดคืนรถคะ เราใช้ local road คะตอนแรกก็รู้สึกว่ามันไม่ได้รถติดอะไร พอเริ่มเข้าเมือง Sapporo นี่ ///คือแบบไฟแดงมันจะเยอะไปไหน 😑  ทุกๆ 50 เมตร จะมีไฟแดง 1 จุดเลยทีเดียว/// ผลลัพธ์คือคืนรถแบบฉิวเฉียดเลย 555           การคืนรถก็ไม่ได้ยุ่งยากนะคะ คือ เราไปเติมน้ำมันที่ปั๊มใกล้ๆ ให้เต็มถังคะ แล้วก็ขับเข้าไปในที่คืนรถ เอาของลงจากรถให้เรียบร้อย แล้วก็ไปเรียกเค้าให้มาตรวจคะ พอเค้าตรวจเสร็จไม่มีอะไรก็แยกย้าย เราก็ลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟ Shiroishi แล้วก็นั่งรถไฟไปลง Nango 7 chome ซึ่งเราจองอพาร์ทเม้นไว้ที่นั้นคะ          ถึงอพาร์ทเม้นและ เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินเล่นหาอาหารกลางวันกิน ไปเจอร้านราเมนชื่อดังของย่านนั้น กินเสร็จก็เดินต่อไปถึงสถานีรถไฟ ซื้อตั๋ว one day pass วันนี้เราโชคดีอีกแล้ว ได้ตั๋วรถไฟถูก  เนื่องจากมันเป็น golden week เราเลยได้เป็นตั๋ววันหยุด  Donichika  (ราคา 520 เยน จากราคาตั๋ววันธรรมดา 830 เยน) 😁

วันที่ 3 [Day 3]

รูปภาพ
          ฝนตกปรอยๆ ตอนเช้า หลังจากที่เรา check out จากโรงแรมเป็นที่เรียบร้อย เวลา 8.30 น. เราก็เดินทางไปที่ป้อม Goryukaku ใช้เวลาขับรถประมาณ 15 นาที ที่ข้างๆ ป้อมจะมีที่จอดรถให้อยู่ จอดรถเสร็จก็ลงเดิน วันนี้เราโชคดีมากๆ เพราะดอกซากุระที่ปลูกอยู่รอบป้อมบานแล้ว ว้าวววว😆   เราก็เดินดูรอบๆ ป้อมพร้อมกับถ่ายรูป แชะๆ บางส่วนของกำแพงป้อมเค้าก็อนุญาติให้เราขึ้นไปถ่ายรูปนะคะ เราขึ้นไปตรงจุดที่เห็นหอคอย Goryukaku พอดีเลย ลมเย็นสบายมาก 😄 แต่พื้นเป็นโคลนหน่อยๆ ในส่วนตรงกลางป้อมจะเจอกับที่ทำการอดีตรัฐบาล ซึ่งการที่จะเข้าไปจะต้องเสียคนละ 500 เยนคะ   (วิวจากกำแพงป้อม) ( หอคอย  Goryukaku )  ( ที่ทำการอดีตรัฐบาล ใจกลางป้อม )           เราใช้เวลาในป้อมไปชั่วโมงกว่าก็ออกมาก็ 9.30 น. จากนั้นก็ขับออกจากเมือง Hakodate ตรงดิ่งโลดไปที่เมือง Toya โดยครั้งนี้ยังเช้าอยู่เราเลยใช้ทาง local road ตลอดเส้นทาง มีทั้งวิวทะเล วิวหมู่บ้าน วิวภูเขาสลับกันไปคะ ก็ผ่านไปราวๆ 3 ชม. ก็ถึงตัวเมือง Toya แต่ยังไม่ถึงทะเลสาบ ถ้าจะเข้าไปที่ทะเลสาบต้องขับไปอีกหน่อย ซึ่งก็บ่ายกว่าแล้ว เลยแวะกินข้าวที่ r

วันที่ 2 [Day 2]

รูปภาพ
                  เราตื่นมาตอน 7.30 น. เนื่องจากเราไม่ได้จองข้าวเช้าของโรมแรม เลยออกไปกินข้าวเช้าที่ Hakodate Morning Market . ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ถึงตลาด ตัวตลาดมีที่จอดรถอยู่ 2 โซนติดกับตลาดเลยแหละ (สำหรับคนที่ไม่มีรถก็สามารถนั่ง tram ได้นะคะ มีแบบ one day pass 600 เยน มาลงที่สถานี Hakodate Dock-Mae แล้วเดินต่ออีกนิดหนึ่ง) ฝนตกพร่ำๆ เราเดินวนดูตลาดสักพักก็แวะเข้าไปกินร้าน ๆ หนึ่ง (สุ่ม ๆ เอาที่ราคาปานกลาง 555) ก็สั่งหมึกยัดข้าวมา 3 ตัว (เค้าถึงจะลดให้ 😂) หมึกนึ่งราดซอส ซาชิมิเนื้อแซลมอน แล้วก็ปูอะไรสักอย่าง ///ตามรูปด้านล่างค่า    (อันนี้ราคาจ้า)           ในตลาดก็จะมีทั้งส่วนด้านนอก ด้านใน เหมือนจตุจักรบ้านเราเลยแหละ ด้านในก็มีร้านขายของเหมือนด้านนอก (แต่ราคาด้านนอกก็จะถูกกว่ามากเลยล่ะ ) แล้วก็มีร้านอาหารขายด้านในเหมือน food court เลยแหละ มีให้กด Gacha ด้วยนะ เรากดได้ปูแมงมุมญี่ปุ่นตัวเล็กๆ น่าร๊ากมากๆ มาล่ะ 😆           หลังจากที่เราเดินดูตลาดทั่วแล้วเราก็ขับรถต่อไปที่ Kanemori Red brick House ก็มีที่จอดรถหลายแห่งนะรอบๆ ให้เลือก (tram สถานี Jujig

วันที่ 1 [Day 1]

รูปภาพ
          เรานั่ง Taxi จากบ้านแถวสะพานควายไปสนามบินดอนเมือง ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงสนามบินดอนเมือง โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องสายการบิน Air Asia X (เราเช็คอินออนไลน์มาก่อน เพราะจะได้ไม่ต้องมาต่อแถวคิวยาวเหยียดที่สนามบิน) ผ่าน ตม. เสร็จก็ไปเข้า King Power Lounge กินขนมแล้วก็รอเวลา ฺ Boarding เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย ขึ้นเครื่องเวลา 23.25 น. นอนสะสมแรงแปป  😴 ARRIVE!            เมื่อมาถึงสนามบิน New Chitose เวลาตามญี่ปุ่นคือ 8.20 น. (เวลาญี่ปุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชม.) เค้าก็จะมีให้สแกนนิ้ว อายุไม่ถึง 18 ไม่ต้องสแกนล่ะ  😆   แล้วก็ผ่าน ตม. รับกระเป๋าเรียบร้อย แล้วก็ลงไปชั้น 1 เพื่อไปจุดรอรถบัสที่จะพาเราไปที่จุดรับรถเช่าของแต่ละบริษัท (มันจะมีสติ๊กเกอร์ติดตามพื้นบอกทางไปรถบัสอยู่ มีลิฟท์อำนวยความสะดวกสำหรับคนกระเป๋าใหญ่ ไม่ต้องห่วงเลยค่า   😊 ) พอลงไปถึงจุดรอรถบัส จะมีเคาน์เตอร์ข้างๆ มีพนักงานต้อนรับอยู่ ก็เอาเอกสารการจองเช่ารถให้เค้าดู เค้าก็จะให้บัตรคิวมา ซึ่งจะใช้อีกทีตอนไปถึงจุดรับรถเช่า เราก็นั่งรอรถบัสประมาณ 15-20 นาทีเองคะ (ไม่ต้องห่วงว่าจะตกรถนะคะ เพราะพี่คนขับเค้าก็จะมาเรียกถึงที่น